ความเข้าใจ 4 ระดับ โดยคุณพศิน อินทรวงค์
วันที่ 24 ก.พ. 2561 เวลา 9.00-14.00 น.
ณ สวนสุนทรี เกษตรอินทรีย์ จ.อำนาจเจริญ
คุณพศิน ได้บรรยายถึงเรื่องความเข้าใจ 4 ระดับ
ได้ฟังแล้วแต่จำรายละเอียดไม่ได้ จึงขอนำ รายละเอียดจาก เพจของคุณพศิน อินทรวงค์ https://www.facebook.com/talktopasin2013
มารวบรวมจัดหมวดหมู่ให้ง่ายต่อการศึกษาดังนี้
ความเข้าใจ 4 ระดับ
(คุณมีความเข้าในระดับใดบ้างต่อสิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต)
พศิน อินทรวงค์
ความเข้าใจ 4 ระดับ
1. ความเข้าใจระดับคลุมเครือ
หมายความว่า ไม่สามารถสื่อสารได้ ไม่สามารถอธิบายได้ ยังเห็นภาพไม่ชัดเจน มีความสับสนกับเรื่องที่ต้องการศึกษาเรียนรู้ ความเข้าใจระดับนี้ยังไม่ใช่ระดับที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ เนื่องจากเป็นความเข้าใจที่ค่อนข้างเลือนลาง จับต้นชนปลายไม่ถูก
2. ความเข้าใจระดับสื่อสาร
หมายความว่า รู้ความหมาย อธิบายได้ สื่อสารแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับบุคคลต่างๆ ได้ แต่ความเข้าใจระดับนี้ยังเป็นความเข้าใจระดับสมอง เป็นความเข้าใจระดับจิตสำนึก ซึ่งยังต้องพัฒนาความเข้าใจต่อไป ยังไม่ใช่ความเข้าใจที่จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อชีวิตได้
3. ความเข้าใจระดับตระหนักลึกซึ้ง
หมายความว่า มีความรู้สามารถสื่อสารได้ อธิบายได้ เป็นความเข้าใจที่ลงลึกถึงจิตใต้สำนึก เป็นระดับความเข้าใจที่ถูกพัฒนาต่อจากความเข้าใจระดับสอง โดยการคิดวิเคราะห์ซ้ำๆ ถี่ๆ บ่อยๆ จนเกิดการตกผลึกทางความคิด ความเข้าใจระดับตระหนักลึกซึ้งนี้ จะส่งผลให้มนุษย์สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ พูดง่ายๆ ว่า สามารถนำข้อมูล ความรู้ หรือประสบการณ์ที่ได้รับมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจนส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของตนเอง
4. ความเข้าใจระดับเข้าถึง
หมายความว่า สามารถเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งที่รู้ สามารถกระทำสิ่งต่างๆ ได้ตามที่ตนเองรับรู้มา จนกลายเป็นสัญชาติญาณ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสิ่งที่ได้เรียนรู้มา ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ในเรื่องนั้นๆ อีกต่อไป เนื่องจากได้มาถึงจุดสูงสุดขององค์ความรู้นั้นๆ แล้ว
ยกตัวอย่าง "ความตาย"
- เด็ก 1 ขวบมีความเข้าใจเกี่ยวกับความตายระดับที่หนึ่ง คือยังไม่รู้แน่ว่า ความตายคืออะไร และความเข้าใจระดับนี้ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับชีวิตของเขา
- คนจำนวนมาก มีความเข้าใจเกี่ยวกับความตายในระดับที่สอง คือสามารถสื่อสารได้ อธิบายได้ พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ว่าความตายคืออะไร หากแต่ความเข้าใจนี้ก็ไม่ได้ตระหนักถึงภาวะภายใน ความเข้าใจเกี่ยวกับความตาย จึงไม่ได้ส่งผลอันใดต่อชีวิตของเขา ความตายยังคงเป็นเรื่องที่ไกลตัวอยู่เช่นเดิม
- คนบางกลุ่ม มีความเข้าใจเกี่ยวกับความตายในระดับที่สาม คือนอกจากรู้ความหมายแล้ว ยังตระหนักชัดว่าความตายเกี่ยวข้องกับชีวิตของตน ความตระนี้จึงส่งผลให้บุคคลผู้นั้นใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท เริ่มตั้งคำถามกับชีวิต เริ่มมองหาหนทางใหม่ๆ ที่จะยกระดับจิตใจ เริ่มสะสมคุณค่า ความหมายชีวิตด้านอื่นๆ ที่มากไปกว่าการแสวงหาความหมายชีวิตที่คนส่วนใหญ่ในสังคมกระทำกันอยู่
-คนจำนวนหยิบมือ มีความเข้าใจเกี่ยวกับความตายในระดับเข้าถึง คนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มคนที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่นอีกเลย เนื่องจาก เข้าใจแล้วว่าชีวิตคือเรื่องชั่วคราว ทั้งความตายยังช่วยให้เข้า รู้ซึ้งถึงคุณค่าของการมีอยู่ แต่ไม่ยึดติด
***ทิ้งท้ายไว้ให้สังเกต***
1. ทุกเรื่องในชีวิตคนเรา สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย ในระดับที่สอง คือความเข้าใจในระดับสื่อสาร แต่การจะทำให้ความเข้าใจระดับสื่อสาร พัฒนาไปเป็นความเข้าใจระดับที่สามและสี่นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องอาศัยการคิด วิเคราะห์ คิดซ้ำๆ ถี่ๆ เป็นเวลาที่ยาวนาน กว่าที่จะเกิดความเข้าใจในระดับที่ตระหนัก และเข้าถึงได้จริง เช่นเรื่องคุณค่าความรัก ความสุข การให้กำลังใจ คุณค่าความเป็นมนุษย์ เหล่านี้เป็นเรื่องยาก ที่มนุษย์คนหนึ่งจะเข้าใจอย่างแท้จริงได้
2. ส่วนใหญ่แล้ว มนุษย์จะเข้าใจเรื่องต่างๆ เพียงระดับที่สองเท่านั้น คือสื่อสารได้ พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ แต่ยังไม่ได้ตระหนักชัดในสิ่งนั้นจริงๆ เช่น ถ้าพูดว่า การให้อภัยเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรทำ เมื่อพูดอย่างนี้ทุกคนจะเข้าใจความหมาย และเห็นด้วยทั้งหมด แต่ความเข้าใจนี้ก็ไม่ได้ส่งผลดีอันใดต่อชีวิตเลย ความเข้าใจระดับที่สอง หรือระดับสื่อสาร จึงไม่ใช่ความเข้าใจที่จะเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณหรือชีวิตของผู้ที่เข้าใจได้จริง
3. ความเพียร การไม่ยึดมั่นถือมั่น ความเมตตา ความเป็นนักพัฒนา คุณสมบัติเหล่านี้จะทำได้จริง ต่อเมื่อบุคคลนั้นๆ เปลี่ยนความเข้าใจของตนให้เป็นความเข้าใจระดับที่สาม และสี่
4. การที่มนุษย์คนหนึ่ง จะเปลี่ยนแปลงความเข้าใจของตน เป็นความเข้าใจระดับที่สามและสี่ได้ จะต้องฟังบ่อยๆ คิดบ่อยๆ อ่านบ่อยๆ ตรึกตรอง และวิเคราะห์บ่อยๆ เช่นเรื่องความตายที่แม้จะดูเป็นเรื่องเข้าใจง่าย เราก็ไม่สามารถเข้าใจอย่างแท้จริงได้ ถ้าไม่หมั่นตั้งคำถาม ตั้งข้อสังเกตบ่อยๆ
5. ปัญหาใหญ่ในชีวิตของทุกคนคือ คิดว่าตนเองเข้าใจแล้ว ทั้งที่ความเข้าใจของตนเอง เป็นเพียงความเข้าใจระดับที่สองเท่านั้น
6. เราควรหาเวลาสำรวจตนเองอย่างแท้จริงว่า ในชีวิตของเรา มีสิ่งใดบ้าง ที่เข้าข่ายที่ว่า เราคิดว่าตนเองเข้าใจ แต่ที่จริงแล้ว เราคือผู้ไม่เข้าใจอะไรเลย
7. ชีวิตคนเราเมื่อศึกษาสิ่งใด เริ่มต้นจะไม่เข้าใจก่อน เมื่อไม่เข้าใจก็ต้องเรียนรู้ เมื่อรู้ความหมายแล้ว อธิบายได้แล้ว สื่อสารได้แล้ว จากนั้นจงคิดทบทวน วิเคราะห์ซ้ำๆ เป็นเดือน เป็นปี จนเกิดความตระหนักชัดในใจ ความตระหนัก คือความเข้าใจระดับสาม ที่จะส่งผลให้ชีวิตเกิดความเปลี่ยนแปลง เมื่อชีวิตเกิดความเปลี่ยนแปลง ทำสิ่งที่ต่างไปจากเดิมในหนทางที่ถูกต้องดีงามบ่อยๆ ถึงจุดหนึ่ง ความถูกต้องดีงามนั้น จะกลายเป็นสิ่งที่เป็นตัวเป็นตนของเรา สิ่งนี้เรียกว่า ความเข้าใจระดับเข้าถึง ซึ่งเป็นความเข้าใจในระดับสูงสุด
8. ระดับหนึ่ง คือไม่เข้าใจ/ ระดับสอง คือสื่อสารได้ อธิบายได้ เขียนได้ แต่ยังไม่ตระหนักถึงใจ ยังไม่เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม / ระดับสาม คือรู้ซึ้งถึงใจ ยินดีเปลี่ยนแปลงตนเอง จนกว่าบรรลุเป้าหมาย / ระดับสี่ ความคิด คำพูด การกระทำ ทุกสิ่งเป็นอันเดียวกับสิ่งที่ตนเองเข้าใจ คือเข้าถึงแล้ว
9. สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคำว่า "รู้" คือ คำว่า "รู้ว่าไม่รู้"
10. เมื่อคุณอ่านบทความนี้จบ คุณยังไม่เข้าใจบทความนี้ในระดับที่สามและสี่ ยังคงเป็นความเข้าในในระดับที่หนึ่ง และสองเท่านั้น คุณจำเป็นต้องนำสิ่งดังกล่าวไปคิด ต่อยอดด้วยตนเอง วิเคราะห์ด้วยตนเองจนตกผลึก เพราะแท้จริงแล้ว ทุกเรื่องในชีวิตคนเรา ล้วนเป็นเรื่องลึกซึ้ง เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่มีแต่ผู้ละเอียดอ่อนต่อชีวิตเท่านั้น จึงสามารถรับรู้และเข้าใจความหมายของทุกสิ่งในชีวิตได้อย่างแท้จริง...
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
ที่ผ่านมามักจะเข้าใจแบบคลุมเครือ หรืออย่างมากก็ระดับสื่อสาร
ReplyDeleteยังไม่ถึงระดับตระหนักลึกซึ้ง
ส่วนใหญ่มักจะไม่รู้ว่า ตัวเองไม่รู้
ReplyDeleteถ้าไม่รู้จักความตายแล้ว ก็จะไม่รู้ความหมายของการมีชีวิตอยู่
ReplyDeleteพร้อมคายได้ทุกเมื่อ โดยไม่กลัว แสดงว่ามีความเข้าใจเรื่องความตาย ระดับเข้าถึง
ReplyDeleteการได้เกิดเป็นมนุษย์ เป็นสิ่งที่มีค่า
ReplyDeleteการมีชีวิตอยู่ ก็เป็นสิ่งที่มีค่า
คนที่มีความสุข ทำงาน จะไม่เหมือนกับ คนที่มีความทุกข์ ทำงาน
ReplyDeleteคนเป็นสัตว์ที่เกิดมาแล้ว พ่อแม่ต้องใช้เวลาดูแลนานมากกว่าสัตว์อื่น
ReplyDeleteปาฏิหาริย์แห่งการตื่นอยู่เสมอ - 4 การกระทำทุกอย่าง...และวันแห่งสติ โดยท่านติช นัท ฮันห์
ReplyDeletehttps://youtu.be/KthLWYmFw1o