การสร้าง Passive Income หรือการใช้เงินทำงาน


  • น้องชายกำลังอยู่ในระยะพักพื้นจากอาการป่วย จึงต้องขอลาป่วยต่ออีกหลายวันตามคำสั่งแพทย์ แต่ทางหัวหน้างานพูดไปทำนองว่า ฐานะทางบ้านก็ดี ถ้าทำงานไม่ไหว ทำไมไม่ลาออกไปเลย เพราะตอนนี้เพื่อนร่วมงานเหนื่อยมากที่่ต้องทำงานแทน หากลาออกจะได้รับคนใหม่เข้ามาทำงานแทน อะไรทำนองนั้น
  • นี่เป็นตัวอย่างของชีวิตลูกจ้างซึ่งเหมือนลูกไก่อยู่ในกำมือของหัวหน้าหรือนายจ้าง ที่จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด
  • Active Income คืออะไร

    • คือรายได้ที่มาจากการลงมือปฏิบัติตลอดเวลาห้ามหยุด หยุดเมื่อไรรายได้ก็หยุดตาม Active Income ชัดๆ ตรงๆ ก็พนักงานแรงงาน รับเงินรายวัน หรือรับจ้างอิสระรายวัน ถ้าทำทุกวันก็ได้ทุกวัน วันไหนหยุดอดได้ และอีกกลุ่มคือพนักงานงานประจำที่เราๆท่านๆฝ่ารถติดเบียดรถไฟฟ้าออกไปทำกันทุกวันรายรับสะสมรับรวบยอดเป็นก้อนทุกสิ้นเดือน ส่วนพ่อค้าแม่ขายที่ต้องออกตลาดกางแผงขายหรือเจ้าของห้างฯร้านกิจการต่างๆ นั่นก็ active income วันไหนไม่ขายคืออดได้เงิน ส่วนอาชีพเสริมหลังเลิกงานเช่น เสิร์ฟอาหาร ขับแท็กซี่ นี่ก็ Active นะครับ และงาน home-base นั่งทำอยู่กับบ้านประเภท freelance แปลภาษา เขียนคอลัมน์ เขียนโปรแกรม ออกแบบกราฟฟิก พวกนี้เป็น Active ทั้งหมด
  • เมื่อวันก่อนแวะไปที่ร้านหนังสือซีเอ็ดเจอหนังสือเล่มนึงชื่อ เหนื่อยชั่วคราว สบายชั่วโคตร ของ พอล-ภัทรพล ศิลปาจารย์ ทำให้รู้จักคำว่า Passive Income

หากเอ่ยชื่อ " พอล " ภัทรพล ศิลปาจารย์ คนครึ่งค่อนประเทศรู้จักในฐานะดารา หน้าตาหล่อๆ แต่จะมีบ้างก็ไม่กี่คน ที่มอง พอล ตรงความคิดหล่อๆ แต่พอลมีมากกว่านั้น
      
       รวย กับ อิสรภาพ คุณเลือกอะไร ? บางคนเลือกรวย เพราะบอกว่า พอรวยแล้วก็จะมีอิสรภาพ บางคนเลือกอิสรภาพ เพราะบอกว่าจริงๆ แล้วไอ้ที่อยากรวย ท้ายสุดมันก็ต้องการอิสรภาพนั่นแหละ
      
       แล้วคุณล่ะ เลือกอะไร ? หนังสือเล่มนี้ มาตอบโจทย์ตรงนี้แหละ ความรวย กับ อิสรภาพ ถ่ายทอดโดยพอลที่ครั้งหนึ่งก็เคยตั้งคำถามตรงนี้กับตัวเอง
      
       มีเงินเท่าไหร่ถึงดี ?
       เป้าหมายชีวิตคืออะไร ?
       ไลฟ์สไตล์แบบไหนเหมาะสม ?
       อิสรภาพควรมาตอนไหน ?
      
       การเล่าเรื่องที่สนุก สะท้อนในตัวหนังสือที่อารมณ์ดีๆหล่อๆ เข้าใจง่ายๆ ช่วยให้ผู้อ่านได้ทั้งรับรู้ตัวตนอีกด้านของผู้เขียน พร้อมๆกับการได้เรียนรู้สู่ความเป็นอิสรภาพทางการเงินไปด้วย วิธีคิดที่ค้นพบโดยพอล มีนำออกมาถ่ายทอด เป็นหลักการที่น่าจะโดนนำไปขยายต่อกันอีกมากมาย แบบเรียกว่าเตรียมจดลิขสิทธิ์กันได้ เรื่องยากๆทำให้ได้เข้าใจกันง่ายขึ้น โดยนักถ่ายทอดที่ผ่านการค้นหาคำตอบในชีวิตแบบเข้มข้น การหายตัวไปแบบชั่วคราวช่วงนึงในแวดวง ตรงนี้คือคำตอบให้รู้ว่าพอลหายไปทำอะไร ?
      
       " เหนื่อยชั่วคราว สบายชั่วโคตร " มากับยุคที่ความมั่นคงในด้านการเงินเป็นเรื่องที่สำคัญของทุกคนมากขึ้นเรื่อยๆ อยากสบาย จำเป็นต้องเหนื่อยบ้าง แต่ขอเหนื่อยเล็กๆ เหนื่อยชั่วคราว เหนื่อยแบบรู้ว่าเหนื่อยตรงไหนแล้วจะไปสบายตรงไหน ไม่ใช่เหนื่อยแบบไร้ทิศทาง เหนื่อยแบบไร้ความหวัง เชื่อว่า พออ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้ว คุณจะมองพอลเห็นอีกมุม และคุณก็จะเห็นตนเองอีกมุม อิสรภาพในชีวิตหลังจากนี้ บรรจุไว้ในหนังสือเล่มนี้
  • ปกติเราจะรู้จักแต่ ROI (Return On Inventment) แต่อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะรู้จักกับ ROH (Return On Happiness) ซึ่งสำคัญกว่า ROI จริง ๆ ด้วย
  • Passive Income คืออะไร

    • คือรายได้ที่เกิดจากเครื่องมือที่ทำงานทำเงินแทนเราได้ด้วยตัวมันเอง คุณไม่ต้องออกแรงลงมือทำซ้ำๆทุกวันๆ แต่คุณจะเป็นผู้สร้างเครื่องมือและบริหารเครื่องมือให้มันทำงานแทนเราอย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพ Passive income ไม่ใช่ของใหม่ มีมานานแล้วเพียงแต่ปัจจุบันเทคโนโลยีการสื่อสารและอินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทมาก ช่องทางการทำงานทำเงินแบบ passive จึงมีมากขึ้น
  • การลงทุนตราสาร

    • เป็น Passive income รุ่นเก๋า อยู่คู่โลกมานานมาก การลงทุนทุกชนิดเป็น passive income ลงทุนในตราสารต่างๆ ตั้งแต่ เงินตรา ฝากประจำ หุ้นกู้ และ หุ้นทุน คุณมีหน้าที่บริหารและจัดสรรเม็ดเงินลงในหน่วยลงทุนต่างๆและจากนั้นก็ปล่อยให้มันทำงานแทนคุณ การลงทุนนั้นทำงานตลอดเวลา ทำงานอย่างช้าๆ ทำงานอย่างเงียบๆ ถ้าไปดูทุกวันๆ จะมองไม่เห็น แต่ถ้าผ่านไปสัก 3-5 ปีจึงจะเห็นภาพว่ามันเติบโตเติบใหญ่สร้างความมั่งคั่งมากมาย (ในกรณีที่คุณลงทุนถูกต้อง) การลงทุนอย่างถูกต้องนั้นในระยะยาวเพิ่มมูลค่าทะลุรายได้ประจำแน่นอน
  •  ทรัพย์สินให้เช่า

    • จริงๆ มันก็อยู่ในกลุ่มการลงทุน แต่แยกออกมาให้เห็นภาพชัดๆ เพราะสินทรัพย์มันมองเห็นเป็นตัวตนได้มากหน่อย เช่น เป็นที่ดิน เป็นอสังหาริมทรัพย์ ที่คุณลงทุนซื้อไว้มาให้ผู้อื่นเช่าต่อ รายได้ก็จะเข้ามาอย่างสม่ำเสมอทุกวันแม้ยามหลับ สินทรัพย์มันก็ทำงานทำเงินของมันตลอดเวลา แต่ Passive income ลักษณะนี้เป็นการเริ่มต้นที่สูงเอาการทีเดียวเชียว
  • Passive Income ในยุคออนไลน์

    • อินเตอร์เน็ตสร้างปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นบนโลกด้วยวิธีการทำเงินออนไลน์ เป็นแหล่งที่คนเริ่มต้นทำธุรกิจโดยใช้ทุนต่ำอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ก่อนหน้านั้นอินเตอร์เน็ตก่อให้เกิด ecommerce ค้าขายผ่านระบบ online ไม่ต้องมีหน้าร้าน และบางคนไม่ต้องมีสต็อก อาศัยเครือข่ายและคอนเนคชั่นดีๆ ก็ทำ ecommerce ได้แล้ว แต่ก็ถือว่าเป็น Active income อยู่ จนกระทั่งมีการพัฒนาพวกระบบสื่อโฆษณาออนไลน์ป้ายโฆษณาและมีการจ่ายเงินให้กับเจ้าของเว็บไซต์ที่เอาป้ายโฆษณาไปโชว์บนเว็บ
  • Google Adsense

    • เป็นระบบป้ายโฆษณาที่ดังที่สุด จริงๆมีอีกหลายค่าย ค่ายที่ดังรองลงมาคือ Adbrite แต่หลักการก็คล้ายๆกันคือคุณเจ้าของเว็บไปลงทะเบียนกับค่าย Ad พวกนี้ พอได้รับอนุมัติการลงทะเบียนก็เอารหัส URL ของ Ad มาลงในเว็บของตนเอง ก็จะปรากฏเป็นแผ่นป้ายโฆษณา ถ้ามีคนเข้าเยี่ยมชมเว็บคุณและเขาเกิด click บนแผ่นป้ายมันก็จะเกิดยอด commission จากการ click ซึ่งเม็ดเงินและการจ่ายเงินค่าโฆษณาให้เจ้าของเว็บก็เป็นไปตามเงื่อนไขของค่าย Ad นั่นๆ
      แต่ประเด็นของ Ad ก็คือคุณต้องมี traffic ผู้เข้าชมเว็บมหาศาลจริงๆ มันถึงจะ generate income ได้มากๆ เพราะ traffic หมายถึงโอกาสที่คนจะ click ป้ายโฆษณา มีเว็บบางเว็บที่มีผู้เข้าชมเดือนละเป็นล้าน views ซึ่งเว็บเหล่านี้มีรายได้จากค่าโฆษณาเป็นหลักแสนบาทต่อเดือนกันเลยทีเดียว แน่นอนว่าเจ้าของเว็บต้องทำงานหนักและวางแผน marketing อย่างดีเป็นเวลานานกว่าจะสร้าง traffic เทพๆ ขนาดนั้นได้ แต่หลักจากนั้น Passive income ก็ keep running อย่างมั่นคงด้วยตัวมันเอง หรือ จนกว่าค่าย Ad จะเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆที่จะกระทบกับเว็บโดยตรง
  • Affiliate Program

    • เป็นการเอาสินค้าและบริการของค่ายอื่นไปโฆษณาขายในรูปของ Ad เช่นกันแต่คราวนี้จะจำเพาะเจาะจงกว่า กล่าวคือ Adsense จะเป็นโฆษณาแบบ generic และ random ไปเรื่อยๆ แต่ Affiliate คุณสมัครเป็นพันธมิตรกับตราสินค้านั้นๆโดยตรงแล้วนำป้ายผลิตภัณฑ์ (หรือบริการ) เขาไปวางไว้ในเว็บไซต์ของคุณเลย โดยมาค่า commission จะมาจากการที่มีคนเข้าไป คลิ๊กและต้องซื้อ ด้วย แต่ค่า commission จะสูงกว่า Adsense หลายเท่า ได้ค่า commission ระหว่าง 10-50% ในบางแห่ง แต่ก็ต้องศึกษาเงื่อนไขให้ดีๆ เพราะเงื่อนไขมันซับซ้อน มีหลายระดับเงื่อนไขการจ่ายเงิน
  • Digital Product

    • เป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมากในอเมริกาในขณะนี้ หลังจากที่ AdSense และ Affiliate นับวันมีแต่จะซับซ้อนและเล่นยากขึ้น ฝรั่งเลยบอกว่าพัฒนาโปรดักท์ของคุณขึ้นมาเองเลย Digital product นี้จะมาในรูปของ information หรือ knowledge for sales เช่น E Books, CDs, MP3 หรือ Podcast เกี่ยวกับเทคนิคและวิธีทำการบางอย่าง การสอน การ Coaching และการให้คำปรึกษาในรูปของ digital และ media ซึ่งคุณสามารถกำหนดราคาและเงื่อนไขทางการเงินของคุณเองได้ และเป็นที่ยอมรับว่ามั่นคงกว่า AdSense และ Affiliate ที่วันดีคืนดีเขาเปี่ยนเงื่อนไขอะไรขึ้นมาสักอย่างอาจทำให้รูปแบบรายได้ของคุณเปลี่ยนแปลงหดหายอย่างควบคุมไม่ได้ตามไปด้วย
  • ที่กล่าวมาเป็นตัวอย่าง Passive Income รายได้ 24 ชั่วโมง ซึ่งในอเมริกาเป็นศูนย์รวมนักทำงานแนว Passive Income ของโลกโดยมีคนอเมริกันที่มีรายได้เลี้ยงชีพจากการทำเงินออนไลน์และหลุดพ้นจากวัฏจักรมนุษย์เงินเดือนพอสมควร
  • พอลแบ่งวิธีสร้าง Passive Income ออกเป็น 6 วิธี คือ

    1. สินทรัพย์ทางการเงิน (Finance Assets)
    2. สินทรัพย์ทางปัญญา (Intellectual Assets) 
    3. อินเทอร์เน็ตมาร์เก็ตติ้ง (Internet Marketing) 
    4. อสังหาริมทรัพย์ (Real Estate) 
    5. การซื้อแฟรนไชส์ (Franchise)
    6. ธุรกิจเครือข่าย (Network marketing)
  • แต่ผมขอเพิ่มอีกวิธีหนึ่งคือ KSS Forex make me rich. ซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะกับผมเพราะใช้เงินลงทุนน้อยแต่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่าเหนื่อย แม้คนธรรมดา (ไม่ต้องเป็นนักลงทุนขั้นเทพ) ก็สามารถทำได้
  • ส่วนพอร์ตลงทุนของพอลในตอนนี้ แบ่งออกเป็นตลาดทุน 50% และอสังหาริมทรัพย์ 50% โดยในตลาดทุนนั้น จะเน้นการลงทุนในกองทุนที่มีปันผล อัตราผลตอบแทนประมาณ 7 - 9% ส่วนตลาดหุ้นจะเน้นหุ้นปันผลมากกว่าหุ้นเก็งกำไร และรีวิวการลงทุนประมาณไตรมาสละ 1 ครั้ง เพื่อปรับพอร์ตการลงทุนตามบริบทของเศรษฐกิจที่ผันแปรไป ส่วนผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดทุนนั้น อยู่ราว 20 - 30% ต่อปี ซึ่งก็เป็นตามเป้าหมาย

    "เมื่อก่อนนี้อีโมชั่นมันเยอะ ความโลภเยอะ และไร้ระเบียบวินัย แต่พอโตขึ้นก็เริ่มมีระเบียบขึ้น รู้จักตัดขาดทุน และเอาเงินจากแคปปิตอลเกนไปลงทุนในหุ้นปันผลอีกทอดหนึ่ง ซึ่งเป็นแนวทางที่ผมชอบ เพราะมีเวลาไปทำสิ่งที่ชอบ"

    พอลบอกเพิ่มว่า หลังจากที่ได้รู้จักกับ Passive Income เป้าหมายการเกษียณของเขาก็เปลี่ยนไป โดยตอนนี้ เขาวางเป้าหมายจะเกษียณที่อายุ 37 ปี โดยมีรายได้ 1 ล้านเหรียญต่อปี ซึ่งรายได้ดังกล่าวจะเป็นลักษณะ Passive Income และใช้ชีวิตล้อไปกับความผันที่เขาลิสต์เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น การเที่ยวรอบโลกปีละ 3 ครั้ง, ดูแลเด็กในมูลนิธิ Happy Life Foundation 100 คนขึ้นไป และสอน Finance Freedom ให้กับผู้ที่สนใจแนวความคิดเดียวกันปีละ 2 ครั้ง
  • "37 ปี เกษียณผมว่าไม่เร็วไป เกษียณของผมไม่ใช่การอยู่บ้านเฉยๆ นอนกินดอกเบี้ย แต่เกษียณของผมคือการได้ชีวิตตามที่อยากใช้ อยากเป็น เพื่อมีความสุขกับการชีวิตอย่างมีอิสระ แม้จะเกษียณผมก็ยังทำงานได้ เพียงแต่ผมไม่ได้ทำงานเพื่อเงินแล้วเท่านั้น ผมทำงานเพราะมันเป็นงานที่ทำให้ผมมีความสุข เกษียณก็คือการมีอิสระในการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการหารายได้นั่นแหละ"
  • ส่งท้ายด้วยผลพวงจากการมี Passive Income 5 อย่างที่พอลเชื่อว่า หากใครสามารถมี 5 สิ่งนี้ได้ เรียกได้ว่ามีความสุขสุด ๆ นั่นคือ 

    1. มีอิสระทางการเงิน (Financial Freedom)
    2. อิสระด้านเวลา (Time Freedom)
    3. สุขภาพดีตามวัย
    4. มีครอบครัวตามที่หวัง
    5. มีชีวิตบั้นปลายตามสมควร

13 comments:

  1. “แคปปิตอลเกน” คือ กำไรจากส่วนต่างราคา ครับ

    ReplyDelete
  2. แล้วคุณหละ มี Passive Income แล้วหรือยัง
    ถ้ามีประมาณ กี่บาทต่อปี

    ReplyDelete
  3. วิธีสร้าง Passive Income มีหลายวิธี ไม่จำเป็นต้องทำครบทุกวิธี ควรเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง จะได้ไปถึงเป้าหมายได้เร็ว ทันเวลา

    ReplyDelete
  4. สำรวจสภาพปัจจุบัน
    1.ทรัพย์สินให้เช่า มีหอพัก 9 ห้อง 9x2000 = 18,000 บาทต่อเดือน หรือ 216,000 บาทต่อปี
    2.กองทุน LTF & RMF ประมาณ 400,000 บาท
    3.หุ้นมีอยู่ในพอร์ตน้อยมาก
    4.Forex ยังอยู่ในช่วงทดสอบค้นหาระบบของตนเอง
    5.Affiliate Program เล็กน้อย

    ReplyDelete
  5. วิเคราะห์สภาพปัจจุบัน
    1.ค่าเช่าหอพักที่ได้ต้องนำมาเป็นค่าส่งงวดธนาคาร, จ่ายภาษีบ้านเช่าประจำปีและให้ผู้ดูแล ส่วนนี้ปัจจุบันยังไม่มีเงินเหลือพอที่จะเป็น Passive Income
    2.กองทุน LTF & RMF จุดประสงค์เพื่อหักลดหย่อนภาษีเป็นหลัก ได้เงินปันผลเพียงเล็กน้อย ยังไม่ค่อยได้จัดการบริหารพอร์ตหรือสับเปลี่ยนกองทุน ดังนั้นขนาดของพอร์ตลงทุนจึงไม่ได้โตขึ้นจากการบริหารจัดการพอร์ต แต่โตขึ้นจากเงินลงทุนที่ใส่เข้าไปทุกปี
    3.หุ้น ไม่ค่อยได้ให้ความสนใจลงทุนมากนัก
    4.Forex ปีนี้ศึกษาเรียนรู้ เทรดจริงมาเยอะพอสมควร
    5.Affiliate Program และ Internet Marketing ต่าง ๆ ลองทำบ้างแล้วแต่ยังไม่สำเร็จ

    ReplyDelete
  6. Target ภายใน 3 ปี (2557-2559) ตั้งเป้าหมายเพื่อให้ได้ Passive Income 100 USD ต่อวัน (หรือ 36,500 USD ต่อปี ซึ่งน้อยกว่าคุณพอล หลายสิบเท่า)
    ซึ่งแบ่งเป็นทีละขั้นดังนี้
    ภายในปี 2557 เป้าหมาย Passive Income >= 20 USD/Day
    ภายในปี 2558 เป้าหมาย Passive Income >= 50 USD/Day
    ภายในปี 2559 เป้าหมาย Passive Income >= 100 USD/Day

    ReplyDelete
  7. วิเคราะห์ Target
    กรณี Passive Income = 20 USD / Day
    หรือ 7,300 USD / Year
    ลองคำนวณค่าเงินต้น จากการสมมุติว่าสามารถทำกำไรจากการลงทุนทำกำไรได้อย่างเก่งสัก 30% / Year ดังนั้นเพื่อให้ได้ 7300 USD จะต้องมีเงินต้น = 7300 x100/30 = 24,333 USD (ถ้า 1USD = 30 THB แล้ว 24,333 USD ก็ประมาณ 730,000 บาท)

    ReplyDelete
  8. ปรับ Target ใหม่
    ภายในปี 2557 เป้าหมาย Passive Income >= 10 USD / Day
    ภายในปี 2558 เป้าหมาย Passive Income >= 25 USD / Day
    ภายในปี 2559 เป้าหมาย Passive Income >= 45 USD / Day
    ภายในปี 2560 เป้าหมาย Passive Income >= 70 USD / Day
    ภายในปี 2561 เป้าหมาย Passive Income >= 100 USD / Day

    ReplyDelete
  9. Road Map
    แต่ละเดือนแบ่งเงินมาลงทุนดังนี้
    1.กองทุน 10,000 บาท
    2.หุ้น 10,000 บาท
    3.Forex 10,000 บาท
    สมมุติบริหารพอร์ตแล้วเท่าทุนจะมีเงินต้นรวมทั้งปี = 360,000 บาท
    ถ้าบริหารพอร์ตได้กำไร 30 % ต่อปี จะได้ Passive Income ประมาณ 10 USD / Day
    ปีที่สอง เงินต้นจะเพิ่มเป็น 720,000 + กำไร 100,000 บาท รวมเป็น 820,000 บาท
    ถ้าบริหารพอร์ตได้กำไร 30 % ต่อปี จะได้ Passive Income ประมาณ 23 USD / Day
    ปีที่สาม เงินต้นจะเพิ่มเป็น 1,080,000 + กำไร 216,000 รวมเป็น 1,296,000 บาท
    ถ้าบริหารพอร์ตได้กำไร 30 % ต่อปี จะได้ Passive Income ประมาณ 35 USD / Day
    ประมาณนี้ จบปีนึงแล้วมาทบทวนแผนใหม่

    ReplyDelete
  10. ปรับปรุง Road Map ล่าสุด ตามลิงค์นี้ครับ
    http://kssforex.blogspot.com/2014/01/kss-road-map-passive-income-100-usd.html

    ReplyDelete
  11. If you are looking for an excellent contextual advertising company, I suggest you take a peek at Propeller Ads.

    ReplyDelete
  12. Respect and I have a tremendous provide: Whole House Renovation contractors for home additions near me

    ReplyDelete